"Trend is your friend" เชื่อว่าเทรดเดอร์ทุกคนต้องเคยได้ยินคำนี้ แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าเทรดเดอร์หลายๆคนชอบเทรดสวนเทรน จริงมั้ยคะ ? แล้วเรามีเหตุผลอะไรที่เลือกเทรดสวนเทรนกันบ้างล่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพราะ
- ความโลภ อยากเก็บมันให้หมดทุกสวิง (ก็มันเสียดายนี่นา)
- อยากเข้าออเดอร์ให้ได้ไว ให้ได้ราคาที่สวยสุดๆเท่าที่จะทำได้ (เข้าก่อนได้เปรียบ อย่างน้อยก็ใกล้จุดคัทลอสละน่า)
ซึ่งการเทรดสวนเทรนนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะล้มเหลวเสมอไป แต่คนที่จะประสบความสำเร็จในการเทรดแบบนี้นั้นมักจะต้องเป็นคนที่ฝึกฝนมาอย่างช่ำชอง รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ความน่าจะเป็นมันมีมากน้อยแค่ไหน จังหวะไหนที่ควรเสี่ยงสวนเทรน และจังหวะไหนที่ไม่ควรจะเสี่ยงกับมัน แต่อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะเทรดตามเทรน เพราะว่ามันเทรดง่ายกว่าและมีความเสี่ยงน้อยกว่า เพราะยังไงซะ ถ้าเราเทรดตามเทรนแล้วโดนราคาลากไป มันก็มีแนวโน้มว่าจะกลับมาทางเดิมที่เราเปิดออเดอร์ไว้มากกว่าการเทรดสวนเทรน และในการเทรดตามเทรน เมื่อโดนราคาลากไปเราสามารถแก้ออเดอร์ได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเราสวนเทรนโดยไม่มีเหตุผลไม่มีทักษะที่ดีพอ ออเดอร์เราอาจจบลงด้วยการชนคัทลอส หรือ บางคนแย่หนักกว่านั้นคือ พวกที่ทั้งๆที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองกำลังเทรดสวนเทรน แต่ก็ไม่ยอมเชื่อสิ่งที่ตาเห็น แต่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิด คือ คิดว่า "ฉันคิดถูก เดี๋ยวมันต้องมาหาฉัน" ก็จะรอราคากลับมา รอจนล้างพอร์ตไปเลยก็มีบ่อย เราอยากจะเตือนไว้ว่า การเทรดสวนเทรนก็เหมือนการเล่นกับไฟ "อย่าเล่นกับไฟ ถ้าไม่มีเครื่องป้องกันไฟที่ดีพอ " เพราะมันอาจทำให้เรากลายเป็นแมงเม่าที่บินเข้ากองไฟ ไฟที่ว่านี่ก็คือ ไฟแห่งความโลภ อันที่จริงเราไม่จำเป็นจะต้องเก็บทุกสวิง ไม่จำต้องเสี่ยงขนาดนั้นก็ประสบความสำเร็จได้ ควรเลือกเทรดเฉพาะในจังหวะที่เรามั่นใจ และการเทรดตามเทรนก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย
ส่วนมากการเทรดสวนเทรนมักจะเป็นวิธีการของ Scalper ที่ต้องการเก็บแค่สั้นๆ แต่อันที่จริงแม้วว่าคุณจะเป็น Scalper ก็เล่นตามเทรนได้ค่ะ ที่นี้เราลองมาดูวิธีการดูแนวโน้ม และเทรดตามเทรนแบบง่ายๆ ลองมาทำอะไรง่ายๆกันดูบ้างเผื่อว่ามันจะช่วยให้การเทรดของคุณง่ายขึ้น
เครื่องมือชื้นแรกที่จะนำเสนอในการสร้างระบบเทรดแบบ Trend Fallow นี้ก็คือ EMA200 (Exponential Moving average 200) ซึ่งเป็นเครื่องมือยอดฮิตของเทรดเดอร์มืออาชีพทั่วไป ที่เอาไว้ใช้ในการดูแนวโน้มของราคา โดยปรกติจะเอาไว้ดูแนวโน้มระยะยาวคือประมาณ 1 ปี แต่เราก็สามารถนำมาปรับใช้ได้กับกราฟในทุกทามเฟรม
การวิเคราะห์แนวโน้ม
การใช้ EMA200 ดูเทรนนั้นก็ง่ายๆค่ะ ถ้าราคาอยู่เหนือเส้น EMA200 ก็แสดงว่าราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และในทางตรงกันข้ามถ้าราคาอยู่ต่ำกว่า EMA200 ก็หมายถึงราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง อันนี้ใครๆก็คงทราบกันดี
อีกอย่างที่คุณควรสังเกตก็คือ ความแข็งแกร่งของเทรน ซึ่งเราจะสังเกตได้จากความลาดชันของเส้น
- เส้นแนวโน้มมีความชันน้อย จะแสดงถึงภาวะแนวโน้มที่ไม่แข็งแรง บ่งชี้ถึงภาวะที่ไม่ค่อยมีแรง ราคาวิ่งเอื่อยๆ ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้นราคาก็จะค่อยๆทำจุดสูงสุดใหม่ไปทีละน้อย ไม่หรือหวา หรือถ้าเป้นขาลง ราคาก็จะค่อยๆปรับระดับทำจุดสำสุดใหม่ไปทีละน้อย แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามทีราคาเริ่มไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ในแนวโน้มขาขึ้น หรือไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ในแนวโน้มขาลง ให้พิจารณาว่านั่นอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มในเร็วๆนี้ แต่อย่างไรก็ดีมันก็ยังเป็นแค่สัญญาณเตือน อย่าเพิ่งปักใจเชื่อจนกว่าราคาจะวิ่งทะลุผ่านเส้นแนวโน้มไปอีกด้านหนึ่งก่อน พิจารณาภาพต่อไปนี้
แนวโน้มอ่อนแอ เส้นแนวโน้มมีความลาดชันน้อย แต่ยังมีการทำจุดสูงสุดและต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ บอกได้ว่ายังไม่เปลี่ยนเทรนในตอนนี้
แนวโน้มราคาเปลี่ยนไป หลังจากที่แนวโน้มอ่อนแอลง ราคาเริ่มเข้ามาวิ่งอยู่ใกล้เส้นแนวโน้ม และไม่มีการจุดสูงสุดใหม่ มีการวิ่ง Sideway สะสมพลังก่อนที่จะทะลุลงมาอยู่ในแนวโน้มขาลง
แนวโน้มอ่อนแอ เนื่องจากมีการปรับตัวของราคา อาจเป็นเพราะตลาดรอข่าวสำคัญ เห็นได้ว่าราคาได้วิ่งมาในเทรนขาลง และมาพักตัว วิ่งเป็น Sideway เกาะอยู่กับเส้นแนวโน้ม จนในที่สุดราคาก็วิ่งไปในทางเดิมอย่างแรง นั่นอาจเป็นเพราะข่าวที่เพิ่งจะประกาศออกมา (ซึ่งส่วนมากมักจะเป็นเช่นนั้น)
- เส้นแนวโน้มมีความชันมาก จะแสดงถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง ราคาจะยังคงไปต่อได้ ให้รอจังหวะราคาย่อตัวแล้วเล่นตามเทรนไป พิจารณาภาพต่อไปนี้
เส้นแนวโน้มที่แข็งแกร่ง มีความชันมาก ราคามีการทำจุดสูงสุดและต่ำสุดใหม่ที่สูงขึ้นไปเรื่อยเรื่อย
การเทรดจากเส้นแนวโน้ม
เส้นแนวโน้มทั่วไป นอกจากจะบอกเราได้ถึงทิศทางของราคาแล้ว ยังมีคุณสมบัติเป็นแนวรับแนวต้านตามธรรมชาติด้วย
ในการเทรดด้วยเส้นแนวโน้ม หรือในกรณีนี้คือ EMA200 มี 2 กรณีคือ เข้าออเดอร์เมื่อราคาวิ่งเข้ามาทดสอบเส้น ดังภาพจะเห็นว่า
ราคาวิ่งมาทดสอบเส้น EMA200 แต่ไม่ผ่านให้เข้าออเดอร์ตามแนวโน้ม (ตามตัวอย่างคือการ Buy ตามแนวโน้มขาขึ้น)
อีกกรณีคือ ราคาวิ่งทะลุผ่านเส้นแนวโน้มไปได้ เราก็เปิดออเดอร์ตามแนวโน้มใหม่ไป (ตามตัวอย่างคือการเปลี่ยนแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง)
แต่ในความเป็นจริง โลกไม่ได้สวยงามอย่างนั้นเสมอไปเราลองมาดูตัวอย่างการ Sideway กันบ้าง
จากตัวอย่างจะเห็นว่าราคามีการทะลุลงมาแล้วแต่ก็ยังมีแรงซื้อกลับขึ้นไป มีการสู้กันอยู่ระหว่างหมีกับกระทิง แต่ในที่สุด หมีก็ชนะ สังเกตได้จากแท่งเทียนในภาพ
อีกสิ่งสำคัญที่อยากให้ท่านตระหนักเอาไว้ด้วยว่า ราคากับเส้นแนวโน้ม มันเหมือนมีแรงดึดดูดซึ่งกันและกัน ไม่ว่าราคาจะวิ่งแรงแค่ไหน เส้นแนวโน้มก็จะตามไป และไม่ว่าราคาจะวิ่งห่างเส้นแนวโน้มไปมากแค่ไหนสุดท้ายมันก็ต้องกลับมาหาเส้นแนวโน้มอยู่ดี ลองพิจารณาตัวอย่างต่อไปนี้
จะเห็นได้ว่า ราคาวิ่งลงมาเป้นเทรนขาลงอย่าแข็งแรง ก่อนที่จะเด้งขึ้นมาวิ่ง Sideway ในกรอบกว้างๆ แถวเส้นแนวโน้ม สร้างรูปแบบราคาแบบ Triple Top แล้ววิ่งกลับไปในทิศทางเดิม
สรุปได้ว่าการเทรดตามแนวโน้มของราคา โดยใช้เส้นแนวโน้ม EMA200 นั้น จะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ถ้าเทรดเดอร์มีพื้นฐานเรื่อง Price Action ไม่ว่าจะเป็นการดูรูปแบบแท่งเทียนหรือการดู Chart Pattern ร่วมด้วยก็จะช่วยให้สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำมากขึ้น
ศึกษาเรื่องรูปแบบแท่งเทียนเพิ่มเติมได้ที่นี่บทความในหมวดหมู่ รูปแบบกราฟแท่งเทียน และศึกษาเรื่องรูปแบบของแบบ Chart Pattern เพิ่มเติมได้ที่หมวดหมู่รูปแบบของกราฟค่ะ
นอกจากนี้แล้ว EMA200 ยังสามารถนำมาประยุกต์กับเครื่องมือพื้นฐานอื่นๆ ทำเป็นระบบเทรดแบบง่ายๆแต่ใช้การได้ดีในการเทรดได้อีกด้วย ซึ่งเราจะพูดถึงเรื่องนั้นในบทความต่อไป
เขียนโดย PipsHunter THFX
www.thaiforexschool.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น